ฝึกลูกให้พร้อม.....ควรเริ่มเมื่อไรดี ?
คำถามที่หมอมักจะถูกคุณแม่ถามอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับเรื่องพัฒนาการของเด็กว่า เมื่อไรลูกจะพร้อม ที่จะทำอะไรต่างๆได้นั้น เป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ง่ายนัก เพราะขึ้นอยู่กับความสามารถในการพัฒนาการตามขั้นตอนต่างๆ ของตัวเด็กเอง และวิธีการต่างๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ ในการฝึกลูก ซึ่งจะขอรวบรวมเอามาไว้ ณ ที่นี้
เมื่อไรที่จะหัดให้ลูกแปรงฟันได้เอง ?
การที่ลูกจะสามารถแปรงฟัน ได้ด้วยตนเองนั้น เขาจะต้องมีความสามารถ ในการดูแลตนเองได้ดีพอสมควร และสามารถช่วยตนเองได้ ซึ่งการที่จะเริ่มฝึกลูก ให้แปรงฟันเองได้นั้น ควรสังเกตดูว่า ลูกพร้อมหรือยัง โดยดูที่ .......
ช่วงอายุที่เริ่ม : 2 ขวบครึ่ง ถึง 3 ขวบ
สิ่งที่แสดงว่าลูกน่าจะพร้อมคือ : ในตอนอายุประมาณ ขวบครึ่ง ลูกเริ่มที่จะฝึกใช้มือในการจับช้อนทานอาหารเอง หรือจับดินสอสีขีดๆ เขียนๆได้เอง ซึ่งแสดงว่า ลูกได้ฝึกใช้ระบบประสาท ส่วนที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการทำงานของมืออย่างละเอียด ได้ดีพอควร ลูกจะเฝ้าสังเกตวิธีแปรงฟันของคุณ ที่คุณทำอยู่ทุกวัน และจะพยายามทำท่าทางเลียนแบบคุณ เมื่อคุณหาแปรงสีฟันอันเล็ก ที่เขาชอบให้เขาใช้ เขาจะลองใส่มันเข้าปาก และพยายามทำมือ เหมือนจะแปรงฟัน ด้วยความสนุกที่เขาทำได้เหมือนคุณ แต่ลูกเองก็ยังต้องการให้คุณช่วยเขา ในการบีบหลอดยาสีฟัน ลงบนแปรง ช่วยในการแปรงฟันบางซี่ ที่เขาทำได้ไม่ถนัดนัก และช่วยในการบ้วนปาก และล้างทำความสะอาดแปรงสีฟัน ให้เขาด้วย การพัฒนาการที่มีความสัมพันธ์กันได้แก่ : เมื่อลูกสามารถใช้มือกำด้ามแปรง และขยับไปมาได้แบบการแปรงฟัน แสดงว่าเขามีความสามารถ ในการใช้มือในการทำงานละเอียดอื่นๆได้ เช่น การจับปากกา หรือดินสอสีเขียน การหยิบจับช้อน และส้อม และการพับกระดาษ หรือผ้าได้ ซึ่งคุณสามารถช่วยในการฝึกฝนทักษะเหล่านี้ ให้กับลูกไปพร้อมๆกัน
เมื่อไรที่ลูกจะแต่งตัวได้เอง ?
เด็กๆจะมีความสามารถในการเลือกเสื้อผ้า และแต่งตัวได้เอง โดยอาศัยความรู้สึกของเขาเอง ว่าจะชอบ หรือไม่ชอบเสื้อผ้า สีไหน แบบไหน ฯลฯ แต่การที่จะสามารถทำการแต่งตัวได้เองอย่างจริงๆ ที่ทำได้อย่างเรียบร้อย ถูกต้องนั้น ลูกจะต้องการความพร้อม ในด้านการประสานงานของระบบประสาทหลายๆอย่างร่วมกัน ซึ่งคุณจะรู้ว่า ลูกของคุณเริ่มมีความสามารถ ในการแต่งตัวได้ด้วยตนเองเมื่อ..........
ช่วงอายุที่เริ่ม : 4-5 ขวบ
สิ่งที่แสดงว่าลูกน่าจะพร้อมคือ : ช่วงอายุประมาณ 2 ขวบ ลูกมักอยากทำอะไรๆ ด้วยตนเองจะไม่ยอมให้คุณใส่เสื้อผ้าให้เขาได้ง่ายๆ ถ้าเขาไม่ยินยอม หรือเห็นชอบด้วย ลูกจะเริ่มที่จะเลือก ในการแต่งตัว เช่น จะใส่เสื้อยืดตัวนี้ กับกางเกงตัวนั้น ใส่รองเท้าคู่นั้นคู่นี้ ฯลฯ ซึ่งคุณควรปล่อยให้ลูก ได้เลือกบ้าง (ถึงแม้จะไม่ถูกใจคุณ) ใช้ช่วงโอกาสนี้ ในการให้เขาได้ลองแต่งตัวเองดูบ้าง แต่คุณก็จะรู้ว่า ลูกไม่สามารถแต่งตัวเองได้อย่างเรียบร้อย คุณต้องช่วยเขา ในการแต่งตัวให้แล้วเสร็จ พออายุประมาณ 3 ขวบ ลูกพอที่จะสวมเสื้อตัวโปรด หรือกางเกงแบบที่สวมสบายๆ (แบบขอบยางยืด) ได้เอง หัดติดกระดุม แต่จะยังไม่สามารถรูดซิป หรือเก็บชายเสื้อไว้ในขอบกางเกงได้เรียบร้อย พออายุประมาณ 4-5 ขวบ ลูกควรจะแต่งตัวด้วยตนเองได้ดีพอควร โดยที่คุณไม่ต้องคอยช่วยเขามากนัก
การพัฒนาการที่มีความสัมพันธ์กันได้แก่ : เมื่อลูกเริ่มแต่งตัวได้เอง แสดงว่าเขาเองก็พร้อมที่จะทำอะไรๆ ด้วยตนเองมากขึ้น เขาจะเริ่มที่จะเป็นอิสระ ไม่ต้องการคุณให้ช่วยเขาทำอะไรๆ ให้มากเหมือนแต่ก่อน ลูกจะมีความภูมิใจ ที่เขาสามารถทำเรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้เอง และจะเริ่มเข้าใจในคอนเซปต์ เกี่ยวกับการแบ่งปันกัน และกฎเกณฑ์พื้นฐานที่มีอยู่ในชีวิตประจำวัน ได้มากขึ้น
เมื่อไรที่ควรจะฝึก ให้ลูกเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ?
สิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่ในอดีต จะเน้นในการฝึกลูกหลาน คือ การฝึกให้เป็นคนมีระเบียบ และหัดให้รู้จัก จัดเตียงนอนให้เรียบร้อยทุกเช้า หลังจากตื่นนอนขึ้นมา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ ในปัจจุบันได้จางหายไป จากกิจวัตรประจำวันของหลายๆครอบครัว เนื่องจากความฉุกละหุก ในการที่จะต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่ รีบอาบน้ำแต่งตัว รีบทานข้าว และเอาตนเอง และลูกๆขึ้นรถ เพื่อจะได้ไปโรงเรียนให้ทันเวลา ทำให้โอกาสที่จะฝึกให้ลูก ได้เป็นคนมีระเบียบ และมีความรับผิดชอบต่างๆ นี้ลดน้อยลง คุณพ่อคุณแม่จึงควรที่จะหาทาง นำกิจกรรมการทำเตียงนอนให้เรียบร้อยนี้ มาใช้ในการฝึกลูก ให้เป็นคนที่มีระเบียบ และรับผิดชอบต่อตนเองได้ ซึ่งมีข้อแนะนำ ดังนี้คือ
ช่วงอายุที่เริ่ม : 6-8 ขวบ
สิ่งที่แสดงว่าลูกน่าจะพร้อมคือ : ช่วงอายุประมาณ 5-6 ขวบ ลูกจะมีความสามารถ ที่จะนอนในเตียงของเขาได้เองแล้ว และรู้จักว่าเตียงที่เขานอนอยู่นี้ เป็นเตียงของเขา ซึ่งคุณควรจะหาโอกาส ที่จะชวนลูกให้ทำเตียงของเขาให้เรียบร้อย เช่น การเก็บหมอน พับผ้าห่ม โดยมีคุณคอยช่วย เพื่อให้ลูกรู้สึกคุ้นเคย กับการทำแบบนี้ และค่อยๆปล่อยให้เขา ได้ลองทำเองดูบ้าง แม้ว่าลูกอาจจะไม่สามารถ พับผ้าห่มได้เรียบร้อยดีนัก หรือดึงผ้าปูที่นอนให้ตึงสวย แบบที่ผู้ใหญ่ทำ ก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญก็คือ ความรู้สึกดีๆที่เขาได้ จากการทำเตียงของเขาเอง ให้ดูเรียบร้อยขึ้น ซึ่งเป็นความภูมิใจที่เกิดขึ้นภายใน และเป็นเสมือนรางวัลอยู่แล้วในตัวเอง
การพัฒนาการที่มีความสัมพันธ์กันได้แก่ : การเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน กับคนอื่นเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ เช่นที่คุณช่วยเขา ดึงผ้าคลุมเตียง หรือผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อย ช่วยกันออกความเห็น ช่วยกันทำคนละไม้คนละมือ จะเป็นการเริ่มต้น ของการทำงานเป็นทีมเวิรค์ที่ดี และคุณสามารถดึงความสนใจของเขา ให้มาช่วยทำงานบ้านอย่างอื่นที่ง่ายๆ เช่น การเก็บเสื้อผ้าส่งซัก การล้างจาน การทำความสะอาดห้องน้ำ หรือการช่วยกันทำกับข้าว ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการฝึกที่ดี ให้ลูกรู้จักการเป็นตัวของตัวเอง รู้จักช่วยเหลือ และรู้จักดูแลตนเองได้ต่อไป
เมื่อไรที่ลูกจะ ดูนาฬิกาเป็นและบอกเวลาได้ ?
ความสามารถในการดูนาฬิกาเป็น และบอกเวลาได้ของลูก บ่งบอกถึงวุฒิภาวะของเด็กว่าเขาเริ่มที่จะเข้าใจเรื่องของคณิตศาสตร์และกฎเกณฑ์ง่ายๆ ของเวลา และความสัมพันธ์ของ “เวลา” กับเรื่องอื่นๆ.....
ช่วงอายุที่เริ่ม : 6-8 ขวบ
สิ่งที่แสดงว่าลูกน่าจะพร้อมคือ : ในสมัยก่อนนาฬิกาจะมีแขน 2 อัน คือเข็มยาว และเข็มสั้น ซึ่งจะหมุน (เดิน)ไปเป็นรอบ มีขีดบอกเวลา ซึ่งบางเรือนก็มีตัวเลขกำกับ บางเรือนก็ไม่มีตัวเลขกำกับ ทำให้เด็กๆมีความสับสนบ้างพอควรในการดูเวลาของนาฬิกาที่จะบอกได้ว่าเป็นเวลาเท่าไร แต่ในปัจจุบันนี้การบอกเวลาของเด็กจะทำได้ง่ายขึ้น เพราะนาฬิกาส่วนใหญ่เป็นแบบดิจิตอล คือเป็นตัวเลขแสดงให้ดูเลยว่า ขณะนี้เป็นเวลาเท่าไร ซึ่งถ้าเด็กสามารถอ่านตัวเลขได้ ก็จะบอกเวลาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเข้าใจคอนเซปต์ของเวลา ที่ 1 นาทีมี 60 วินาที และ 1 ชั่วโมงมี 60 นาที, วันหนึ่ง มี 24 ชั่วโมง ฯลฯ ได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เอง ก็ยังควรจะใช้นาฬิกาเป็นสื่อในการสอนเรื่องคอนเซปต์ของเวลา และคณิตศาสตร์อย่างง่ายๆ ให้กับลูก โดยการทำนาฬิกาของเล่นเพื่อให้ฝึกอ่านเวลา จากเข็มหน้าปัด หรือการสอนความสัมพันธ์ของเวลา กับสิ่งอื่นๆ เช่น เคารพธงชาติเวลา 8 โมงเช้า หรือการใช้ นาฬิกาแดด และนาฬิกาทราย เพื่อให้เขามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น เกี่ยวกับเรื่องของเวลา เพื่อเสริมความคิดแบบแอปสแตรก (abstract) ต่อไป
การพัฒนาการที่มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ : เมื่อลูกมีวุฒิภาวะที่ดีพอ ที่จะบอกเวลาจากนาฬิกาได้แล้ว แสดงว่า เขามีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับตัวเลข และความสัมพันธ์อื่นๆ เขาจะเริ่มสนุกกับการหัดอ่านหนังสือ และการบวก ลบ เลข รวมทั้งเริ่มเข้าใจการรอคอย หรือการใช้เวลาในการทำสิ่งต่างๆ ซึ่งจะเป็นการฝึก ให้เขามีวุฒิภาวะเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
เมื่อไรที่ลูก จะเดินข้ามถนนเองได้ ?
เมื่อคุณพ่อคุณแม่คิดถึง เรื่องการฝึกให้ลูกหัดข้ามถนนเองนั้น หลายคนก็ยังไม่อยากจะทำ เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะเกิดอันตรายขึ้นกับลูกได้ แต่ในชีวิตจริง ที่ลูกจะต้องเผชิญ เช่น ตอนไปเรียนที่โรงเรียน หรือการออกไปซื้อของ ไปเดินเที่ยว แถวบ้าน ก็อาจเกิดความจำเป็น ที่ลูกจะต้องเดินข้ามถนนเอง ดังนั้น คุณจึงควรหาโอกาสฝึกให้ลูก ได้รู้จักการระมัดระวังตัว ในการข้ามถนน ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยการฝึกเขาให้ถูกต้อง ก่อนที่ลูกจะได้รับอันตราย จากการเดินข้ามถนนเอง
ช่วงอายุที่เริ่ม : 9-10 ขวบ
สิ่งที่แสดงว่าลูกน่าจะพร้อมคือ : คุณควรฝึกลูกให้รู้จัก การข้ามถนนอย่างรอบคอบ โดยการดูว่า เขารู้จักการกะระยะของรถ ที่วิ่งไปมาบนถนน และจังหวะการก้าวลงเดินข้ามถนน รวมทั้งการรู้จักมองดูรถทั้งสองฝั่งถนนว่า ได้หยุดให้ ก่อนที่จะข้ามถนน โดยควรเริ่มจาก การข้ามถนนบนทางม้าลาย ในช่วงที่มีจังหวะ ไฟแดงไฟเขียว และรถต่างๆจอดหยุดตามกฎจราจร พร้อมๆกับคนอื่นๆ เดินข้ามถนน เพื่อให้ลูกได้รู้จักจังหวะ และฝึกฝนการข้ามถนน จนเกิดความมั่นใจ ที่จะดูแลตนเองได้ ก่อนที่จะปล่อย ให้เขาเดินข้ามเองตามลำพัง
การพัฒนาการที่มีความสัมพันธ์กันได้แก่ : ในช่วงอายุนี้ลูกจะเริ่มเรียนรู้ ถึงการเป็นอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง คุณควรใช้โอกาสนี้ ในการสอนเรื่องความปลอดภัยด้านอื่นๆ ด้วย เช่น การห้ามพูดคุยกับคนแปลกหน้า ที่พบตามข้างทาง และไม่ไปกับคนแปลกหน้า หรือห้ามขึ้นรถคนอื่นที่มารับไป ควรฝึกลูก ที่จะหาที่ที่จะเป็นที่นัดพบกันกับคุณพ่อคุณแม่ ในกรณีเกิดการผลัดหลง หรือ มารับผิดเวลา และฝึกลูกในการใช้โทรศัพท์ เพื่อติดต่อคุณ หรือกลับเข้าไปหาคุณครู ที่โรงเรียน ในกรณีที่เกิดเหตุไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น
พญ.จันท์ฑิตา พฤกษานานนท์ คลินิกเด็ก.คอม